welcome to crescent moon space

welcome to crescent moon space
small but beautiful small alternative space for theatre lovers

Tuesday 18 March 2008

Welcome to nothing




Welcome to nothing

“ DON'T THINK – JUST FEEL!!”


มันไม่เกี่ยวกับอะไรซักอย่าง แต่ในเวลาเดียวกัน มันเกี่ยวกับทุกๆอย่าง Welcome to nothing เป็นการ์ตูนที่นพพันธ์เขียนขึ้นมาปีที่แล้ว ละครเรื่องนี้มีคอนเซปมาจากการ์ตูน เป็นเรื่องราวหลายๆตอนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน มีตัวละครหลายตัว สภานการณ์หลายแบบ หลายรส หลายอารมณ์

“ สุดยอดของสาระ คือไร้สาระ ”

นักแสดงคือผู้ชายสามคน - นพพันธ์ บุญใหญ่ / เกรียงไกร ฟูเกษม / กีรติ ศิวะเกื้อ
ละครเวทีโดย นพพันธ์ บุญใหญ่

25, 26, 27 เมษายน – ศุกร์ 19.30 เสาร์ – อาทิตย์ 14.30 และ 19.30
2, 3, 4 พฤษภาคม – ศุกร์ 19.30 เสาร์ – อาทิตย์ 14.30 และ 19.30
(รวม 10 รอบ)

แสดงที่ ละครโรงเล็ก Crescent Moon Space
สถาบัน ปรีดี พนมยงค์ สุขุมวิท 55 ซอยทองหล่อ
ราคาบัตร 300 บาท นักศึกษา 250 บาท

สอบถามรายละเอียด : 086 814 1676
Email: inseadang@hotmail.com

Saturday 8 March 2008

ข่าวละคร "หยดเลือดที่เหือดหาย"

ข่าวละครเรื่อง "หยดเลือดที่เหือดหาย"
จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 6 มีนาคม 2551 คอลัมน์ ผู้หญิง-คนรุ่นใหม่ หน้า 25





"หยดเลือดที่เหือดหาย"
ละครปลุกวิญญาณ...หญิงต้องกล้า


พลังคนรุ่นใหม่ เป็นพลังที่เปี่ยมไปด้วยแรงอุดมการณ์ ซึ่งอุดมการณ์นั้นไม่จำเป็นต้องสะท้อนออกมาในรูปแบบของกิจกรรมทางการเมือง ทางการเป็นอาสาสมัครพัฒนาชนบท

หากสะท้อนออกมาได้ทุกรูปแบบ

อย่างอุดมการณ์ของ "นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะอักษรศษสตร์ เอกศิลปะการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ที่สะท้อนอุดมการณ์ออกมาในรูปแบบของ "ละครเวที"

หนึ่งในนักแสดงนำ นางสาวปัญญพร สุทัศน์กุล หรือ ปันปัน อายุ 20 ปี เริ่มเล่าที่มาที่ไปของละครเวทีแนวดราม่านี้ว่า ละครเวทีเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการสังเกตว่า ขณะนี้วงการละครเวทีเมืองไทยมีแต่ละครที่สร้างขึ้นเพื่อ "ขำ" อย่างดียว เธอและเพื่อนจึงอยากทำละครที่มีเนื้อหาสาระที่ให้อะไรกับผู้ชมมากกว่าแต่ความบันเทิง

"ทุกปีนิสิตเอกศิลปะการละครต้องทำละครเวทีเพื่อเข้าร่วมแสดงในเทศกาลละครกรุงเทพ แต่ก่อนฟันธงว่าจะแสดงเรื่องอะไร เรามานั่งคุยกันว่า เราไม่อยากแสดงละครที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ชมหัวเราะอย่างเดียว ในฐานะนักเรียนการแสดง เราถือว่าละครเวทีเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ซึ่งความหมายของศิลปะคือสิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อจรรโลงจิตใจมนุษย์ให้ดีงาม เราจึงไม่อยากให้คนที่มาดูละครของเรา เสียค่ารถมาดูละครแค่ขำๆแล้วกลับบ้าน ไม่มีอะไรกลับไปประเทืองปัญญา ถ้าเป็นอย่างนี้ เรารู้สึกว่าอย่าเสียค่ารถมาเลย เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน ไม่คุ้ม"

พอตกลงใจกันว่าจะแสดงละครแนว "ประเทืองปัญญา" เธอและเพื่อนทั้งคณะที่มีกันเพียง 10 ชีวิต จึงหยิบบทละครเรื่อง "Hunger" หรือ "หยดเลือดที่เหือดหาย" ของ โฮป แมคอินไทน์ มาแสดง

ปันปัน ผู้สวมบทบาทเป็น "เจสสิก้า" บอกว่า จุดประสงค์ของการสร้างละครเรื่องนี้คือยกย่องความกล้าหาญของผู้หญิงที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความอยุติธรรม ผ่านเรื่องราวของ "เจสสิก้า คาร์เตอร์" ทนายความและนักสิทธิมนุษยชน ชาวอเมริกันที่ลุกขึ้นต่อสู้กับอำนาจรัฐหลังจากที่สามีซึ่งเป็นหัวหน้ากองโจรในกัวเตมาลาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เธอทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตนเองและสามี

"เจสสิก้าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากพยายามกัดฟันสู้ถึงกับอดอาหารประท้วงรัฐบาลจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ละครเรื่องนี้สะท้อนให้รู้ว่า ผู้หญิงไม่โง่นะ ไม่ใช่คนที่ใครพูดอะไรก็เชื่อ ผู้หญิงทำได้ทุกอย่าง และกล้าที่จะลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิอันพึงทีพึงได้ของตัวเอง"

นอกจาก "ยกย่องสตรี" นิสิตเอกการละคร รั้วจามจุรี ยังสอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับสังคมด้วย

"จุดจบของละครคือความว่างเปล่า เจสสิก้าไม่ได้อะไรเลยจากการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ผู้ชมดูแล้วจะรู้ว่านี่คือภาพสะท้อนของสังคมไทย ในขณะที่เราบอกว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิออกมาเรียกร้องอะไรกับรัฐก็ได้ แต่ก็ทำได้แค่เรียกร้อง เพราะสุดท้ายรัฐก็ไม่เห็นช่วยอะไรเลย ประชาชนก็ยังคงต้องอยู่ต้องสู้ด้วยตนเอง มีชีวิตความเป็นอยู่ไปตามยถากรรม"

ปิดท้าย ปันปัน บอกว่า อยากให้ผู้หญิงที่มาดูละครเรื่องนี้เข้มแข็งและกล้าหาญเหมือนเจสสิก้า ส่วนผู้ชายอยากให้ยอมรับและให้เกียรติผู้หญิง เพราะไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็มีความเป็นมนุษย์เท่าๆกัน

ละครเวที “Hunger” จะเปิดการแสดงในวันที่ 14-16 มีนาคม และวันที่ 21-23 มีนาคม ที่โรงละครพระจันทร์เสี้ยว สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซอยทองหล่อ เป็นอีกหนึ่งการแสดงที่ควรค่าต่อการติดตามชม