welcome to crescent moon space

welcome to crescent moon space
small but beautiful small alternative space for theatre lovers

Wednesday, 30 December 2009

พบกันใหม่ปีหน้า


พระจันทร์เสี้ยวการละครและละครโรงเล็ก Crescent Moon space หรือ โรงละครพระจันทร์เสี้ยว ขอขอบคุณเพื่อนมิตรและผู้ชมทุกท่านที่มาแสดง มาร่วมงาน มาดูมาชม มาเป็นกำลังใจ และสนับสนุนศิลปะการละคร

ปี 2552 นี้ มีละครมาลงโรงที่ Crescent Moon space ทั้งหมด 12 เรื่อง รวมรอบการแสดงทั้งหมด 110 รอบการแสดง จัดอบรมละครทั้งหมด 7 ครั้ง จัดฉายภาพยนตร์และเสวนา 1 ครั้ง จัดการแสดงโชว์เคสอีก 1 ครั้ง เป็นละครสั้น 4 เรื่อง ปีนี้เป็นปีแรกที่พระจันทร์เสี้ยวการละครจัดโครงการอ่านบทละครแบบรวมพลคนละครมาร่วมกันอ่านร่วมกันแสดง คือ อ่าน(เรื่อง)รัก และ อ่านสันติภาพ รวมการอ่านบทละครทั้งหมดมี 22 เรื่อง จาก 24 นักการละคร

แอบกระซิบว่าเดือนกุมภาพันธ์มีเรื่องรักจาก New Theatre Society มารอให้ชม ขอให้ทุกท่านมีความสุข สมหวัง และมีสุขภาพแข็งแรง มีพลังใจเต็มเปี่ยมที่จะทำในสิ่งที่รัก แล้วอย่าลืมแวะมาดูละครที่โรงละครเล็กๆแห่งนี้ได้ในปีหน้า


Friday, 25 December 2009

merry christmas & happy new year 2010


Merry Christmas!
Have a very joyful & Happy new year to all!


สวัสดีปีใหม่
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกาย สุขใจ สมหวัง และสันติ



Thursday, 24 December 2009

ซ้อมละครเรื่อง ล่า-ท้า-ฝัน

ช่วงนี้ที่ละครโรงเล็ก Crescent Moon space หมดงานโปรดักชั่นแล้ว มีแต่ละครของไอซีที ม.ศิลปากรที่มาใช้ห้องซ้อมในวันเสาร์-อาทิตย์เพื่อซ้อมละครเรื่อง "ล่าท้าฝัน" ที่ใกล้จะลงโรงละครในวันที่ 8-10 มกราคมนี้ ที่ห้องประชุมพูนศุข พนมยงค์ สถาบันปรีดี พนมยงค์

ละครเรื่องนี้แปลและดัดแปลงบทมาจากบทละครเยอรมันเรื่อง Creeps ซึ่งเป็นบทที่ค่อนข้างใหม่คือยังอายุไม่ถึงสิบปี เขียนโดย Lutz Hubner เรื่องราวค่อนข้างทันสมัยใกล้ตัวเรา

ส่วนโปนดักชั่นนี้ก็เป็นโปรดักชั่นใหม่ทั้งนักแสดงและทีมงาน เพราะเป็นละครเรื่องแรกของคณะไอซีที ศิลปากร ที่อยากให้น้องๆนักศึกษาที่ฝึกฝนเรียนรู้กับประสบการณ์การทำงานจริงกับละครเรื่องนี้

ลองมาดูภาพการซ้อมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา














Wednesday, 23 December 2009

บทความจากผู้ชม "ไฟล้างบาป"


ละครที่ผู้หญิงเขียนบท
เขียนโดย อาโด๊ด

จากบล๊อกโอเคเนชั่น


ผมเคยตั้งคำถามมานานแล้วว่า ทำไมจึงไม่มีครูเพลงลูกทุ่งผู้หญิงเลย เห็นมีแต่ครูเพลงผู้ชายแต่งเพลงให้ผู้หญิงร้อง เนื้อเพลงครวญคราง หนาวอย่างนั้น เหงาอย่างนี้ คิดถึง น้อยใจ เสียใจ อาลัยรัก เมื่อไหร่จะมาขอ เขยิบเข้ามาซิ รออยู่นะจ๊ะ... สงสัยว่าผู้หญิงเขาคิดกันอย่างนั้นจริงๆ หรือเปล่า

วันก่อนมีโอกาสได้ตามเพื่อนไปดูละครเวที บังเอิญว่าเป็นละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีคิดของผู้หญิง เขียนบท กำกับ และแสดงโดยผู้หญิง ได้แง่มุมหลายอย่างที่น่าสนใจ บางทีผู้ชายอย่างเราอาจต้องเก็บเอามาคิดทบทวนให้ดีหากเรายังยึดมั่นอยู่กับค่านิยมทางสังคมที่มองว่าผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า

ผมไม่คิดว่าละครเวทีเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผู้หญิงเขียนบท เพียงแต่ผมเพิ่งได้ดูเป็นครั้งแรก ต่างจากภาพยนต์และละครโทรทัศน์ที่มีการเขียนบทเองบ้าง นำโครงเรื่องมาจากหนังสือนิยายบ้าง ซึ่งนิยายส่วนใหญ่โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับชีวิตและความรักทั้งหลายทุกวันนี้ก็เขียนโดยนักเขียนผู้หญิงทั้งนั้น เพียงแต่ไม่ค่อยเห็นว่าภาพยนต์และละครที่ผ่านมาจะเขียนในมุมมองของผู้หญิงสักเท่าไหร่ เนื้อหาส่วนใหญ่ยอมจำนนอยู่ภายใต้วาทกรรมชายเป็นใหญ่ทั้งนั้น

ไฟล้างบาป คือละครที่ผมพูดถึง เวลาราว 30 นาทีในโรงละครห้องเล็กในสถาบันปรีดีเมื่อสัปดาห์ก่อน มีคนดูแค่ 20 คน ซึ่งไม่แน่ใจว่าคุ้มค่าเช่าหรือไม่ ภาพที่เห็นไม่อลังการงานสร้างอย่างละครคุณหนูขาใหญ่ไฮโซ มีตัวละครเพียง 4 ตัว ระบบแสงเสียงไม่ซับซ้อน ผมซึ่งไม่มีความรู้ด้านการละครมาก่อนยอมรับว่าดูละครเวทีไม่เป็น แต่ดูไปดูมากลับรู้สึกสนุก สนุกที่ได้ยินความคิดดังๆ แบบผู้หญิง เขาปล่อยให้คิดอย่างไม่ยัดเยียด ก็เลยรู้สึกคุ้มที่ได้ดู (คุ้มแน่นอน เพราะเพื่อนออกค่าบัตรให้)

ละครฉากแรกเริ่มต้นตรงที่หญิงสาว 3 คน นอนแผ่หราอยู่บนพื้น รอบตัวแต่ละคนมีเส้นสีขาวล้อมรอบเหมือนอย่างที่ตำรวจชอบทำเวลาเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

หญิงสาวคนแรก เป็นสาวใช้ ที่ถูกทรชนรุมโทรม ต้องหาทางออกมาจากหน้าต่างอาคารสูงราว 20 ชั้น

ป้าทอม เป็นหญิงสาวรายที่สองที่ถูกแฟนสาวตีจาก ประชดชีวิตด้วยการวิ่งตัดหน้ารถยนต์ที่วิ่งสวนมาด้วยความเร็วสูง

ดาราซุปเปอร์สตาร์ เป็นหญิงสาวคนสุดท้าย เธอถูกสังคมคาดหวัง และถูกกระทำจากกระบวนการสร้างข่าวของสื่อมวลชน ต้องกินยาเป็นกำมือเพื่อให้หลับลงได้แต่ละคืน

เมื่อทั้งสามรู้สึกตัวขึ้น ต่างก็สับสนว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ตื่นตระหนก หวาดกลัว และปฏิเสธภาพที่เห็นตรงหน้า ต่างรู้สึกเสียดายชีวิต พอได้สติทั้งสามคนก็เริ่มหันหน้าพูดคุยแลกเปลี่ยน ทบทวนถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเธอต้องมาอยู่ยังสถานที่นั้น โดยที่ทุกคนก็ยังคงไม่ละทิ้งตัวตน บางคนยังห่วงงาน บางคนยังเชื่อในการตัดสินใจของตน และบางคนยังคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น

หลังพูดคุยปรับทุกข์เรียนรู้กันพักใหญ่ทำให้เข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น พวกเธอเริ่มทำใจได้ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นอากาศเบื้องบนแยกตัว มีกะละมัง 3 ใบ และผ้ากองโตตกลงมาจากข้างบน พวกเธอเข้าใจว่าสถานที่พวกเธออยู่นั้นคือ นรก และกำลังถูกนรกลงโทษในความผิด จึงจำยอมนั่งซักผ้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ระหว่างนั้นพวกเธอต่างยอมรับในความผิดของตน

หญิงสาวใช้ รู้สึกผิดที่ตัวเองถูกทรชนรุมข่มขืน ทำให้เธอต้องเป็นคนบาป
หญิงสาวห้าว รู้สึกผิดที่เธอมีรสนิยมในเพศเดียวกันทั้งที่รู้ว่าผิดครรลองของสังคม
หญิงสาวซุปเปอร์สตาร์ รู้สึกผิดที่เธอตกเป็นข่าวกับดาราชายมากหน้าหลายตา

ในที่สุดจากการพูดคุยปรับทุกข์ของหญิงสาวทั้งสามก็เปลี่ยนไปเป็นการตำหนิการทำงานของนรกที่ไม่เป็นธรรมกับพวกเธอ พวกเธอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจออกมาชี้แจง

เสียงดังสนั่นอีกครั้ง อากาศเบื้องบนแยกออก ปรากฏ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ในร่างผู้หญิงชุดขาวเข้ามาใกล้พวกเธอ ทั้งสามคนแปลกใจที่เห็นยมบาลเป็นผู้หญิง เพราะนิทานและเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับยมบาลทั้งหลายต่างระบุตรงกันว่ายมบาลเป็นผู้ชาย แต่ก็ได้รับคำชี้แจงว่า ไม่เคยมีข้อกำหนดมาก่อนว่ายมบาลต้องเป็นผู้ชาย สถานที่ทุกคนอยู่นั้นก็ไม่ได้เรียกว่านรกหรือสวรรค์ ไม่มีการลงโทษ และก็ไม่มีใครสั่งให้พวกเธอต้องซักผ้าด้วย สรุปว่าพวกเธอคิดไปเอง เข้าใจไปเอง และทำไปเองตามความเคยชิน สถานที่นั้นเป็นแต่ความว่างเปล่า ไม่มีข้อกำหนดกฏเกณฑ์ทางสังคม “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ชี้แจงว่า ทุกคนสามารถคิดและตัดสินใจได้ด้วยตนเองในทุกเรื่อง หากสิ่งนั้นๆ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองและใครก็ตาม

ละครเรื่องนี้จบลงด้วยการสะท้อนมุมมองของผู้หญิงจากที่เคยทำสิ่งต่างๆ ด้วยความเคยชินมาตลอดทั้งชีวิต นอกจากคิดไปตามกรอบที่ผู้ชายกำหนดให้แล้ว ผู้หญิงก็ยังเป็นฝ่ายรักษากรอบคิดนั้นเอาไว้อย่างเคร่งครัด โดยนำมาใช้เป็นเครื่องมือควบคุมผู้หญิงด้วยกันเองให้อยู่ในกรอบที่ผู้ชายกำหนด ผู้หญิงที่คิดและทำต่างออกไปก็จะถูกมองว่าล่วงละเมิดจารีต แม้แต่ผู้หญิงที่ถูกผู้ชายกระทำเองก็ยังรู้สึกว่าเป็นความผิดบาปของตน ทั้งที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ รวมทั้งไม่ได้เป็นผู้กำหนดจารีตอันนั้นขึ้นแม้แต่น้อย

ขอขอบคุณ คุณอาโด๊ด สำหรับเสียงสะท้อนจากผู้ชม

ดูเพิ่มเติมได้ที่
http://www.oknation.net/blog/r-dote/2009/12/18/entry-1

Monday, 7 December 2009

ไฟล้างบาปรอบสุดท้าย

วันนี้รอบสุดท้ายไฟล้างบาป

มีรูปถ่ายจากการแสดง 4 รอบที่ผ่านมา
ถ่ายภาพโดย จีรณัทย์ เจียรกุล








Sunday, 6 December 2009

สูจิบัตร “ไฟล้างบาป”

การเดินทางของไฟล้างบาป

ละครเวทีเรื่อง “ไฟล้างบาป” เป็นผลงานที่เกิดจากการพัฒนาบทและการแสดงจากนักแสดงหญิงสี่คน คือ สีนีนาฏ เกษประไพ, จารุนันท์ พันธชาติ, ฟารีดา จิราพันธ์ และ สุมณฑา สวนผลรัตน์ จากการไปร่วมอบรมในโครงการ Mekong Performing Arts Laboratory 2006 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนและเพิ่มทักษะด้านการละครของศิลปินในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ในประเด็นเกี่ยวกับผู้หญิง บทบาททางเพศ และ HIV และต่อมาได้รับการสนับสนุนและเป็นหนึ่งในโครงการ Mekong Creative Communities Arts for Advocacy Fellowship 2007 ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Philippines Educational Theatre Association (PETA) และมูลนิธิ The Rockefeller Foundation ให้เราได้แสดงทัวร์ในอีกสิบแห่ง

และครั้งล่าสุดกับการไปร่วมแสงดในงานเทศกาล Mekong Arts and Media Festival 2009 ในครั้งนี้ “ไฟล้างบาป” มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างเพื่อความเหมาะสมและเพื่อความสนุกสนานในการทำงาน และยังคงพูดถึงเรื่องราวของผู้หญิงเพื่อผู้ชมทุกคน

แสดงครั้งแรกที่Hong Ha Theatre Hanoi, Vietnam ในงาน Mekong Performing Arts Laboratory 2006 15 กันยายน 2549 (จำนวน 1 รอบ)


แสดงครั้งที่สองที่สวนสันติไชยปราการ ในงาน Bangkok Theatre Festival 2006วันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2549 (จำนวน 2 รอบ)แสดงทัวร์ในสิบมหาวิทยาลัยมศว, ม.สวนสุนันทา, คณะนิเทศศาสตร์ จุฬา, V-Train บ้านพักฉุกเฉิน, ม.วไลอลงกรณ์, ม.ราชภัฏจอมบึง, ม.บูรพา, ม.ธุรกิจบัณฑิตย์, ม.เกษมบัณฑิตย์, ม.ศิลปากร (ทับแก้ว) ในปี 2007 (จำนวน 10 รอบ)


แสดงครั้งล่าสุดในงานเทศกาล Mekong Arts and Media Festival 2009ที่โรงละคร Jaktomok Conference Hall กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 (จำนวน 1 รอบ)


นักแสดง
สินีนาฏ เกษประไพ, ฟารีดา จิราพันธุ์, ศรวณี ยอดนุ่น, สุมณฑา สวนผลรัตน์


ทีมงาน
ทีมงานติดตั้งระบบ (เวที,ฉาก,แสง,เสียง)
พี่แอ๋ม, ฐาน, ลูกอิน, ไผ่, ชัย, ใหม่, สุกี้, โอ๊ค, โบ, ฟา, นาด
ฝ่ายบัตรและหน้างาน สุกัญญา เพี้ยนศรี, กีรติ ศิวะเกื้อ
ประชาสัมพันธ์ บูรณิจฉ์ ถิ่นจะนะ
ถ่ายภาพนิ่งและวิดิโอ จีรณัทย์ เจียรกุล, ภูมิฐาน ศรีนาค, กวินธร แสงสาคร
ควบคุมแสง อรุณโรจน์ ถมมา
ควบคุมเสียงและวิดิโอ บูรณิจฉ์ ถิ่นจะนะ
ตัดต่อเสียง จารุนันท์ พันธชาติ
วิดิโอประกอบ จารุนันท์ พันธชาติ, กวินธร แสงสาคร
เขียนบท จารุนันท์ พันธชาติ, สุมณฑา สวนผลรัตน์, ฟารีดา จิราพันธ์, สินีนาฏ เกษประไพ
ออกแบบโปสเตอร์ วิชย อาทมาท
กำกับเทคนิคและออกแบบแสง ทวิทธิ์ เกษประไพ
ออกแบบฉากและกำกับศิลป์ สินีนาฏ เกษประไพ


ขอบคุณ
งานเทศกาล Mekong Arts and Media Festival 2009
PETA (Philippines Educational Theatre Association)
สถาบันปรีดี พนมยงค์
อ.ปวิตร มหาสารินันท์
ครูอุ๋ย พรรัตน์ ดำรุง
และท่านผู้ชมทุกท่านที่สนับสนุนศิลปะการละคร

Friday, 4 December 2009

Purgatory play ละครส่งท้ายปีที่ Crescent Moon space


แสดงแล้วเมื่อวานนนี้เป็นวันแรก

สาวๆจาก ไฟล้างบาป เดินทางกลับจาก Mekong Arts and Media Festival 2009 แล้วรีบซ้อมและเปลี่ยนแปลงเซ็ทติ้งให้เข้ากับสเปซเล็กๆอย่าง Crescent Moon space และทำการแสดงรอบแรกไปแล้วเมื่อวานนนี้ เราเก็บภาพมาฝากให้ชม

ภาพถ่ายโดย ภูมิฐาน ศรีนาค