welcome to crescent moon space

welcome to crescent moon space
small but beautiful small alternative space for theatre lovers
Showing posts with label ช่อมาลีรำลึก. Show all posts
Showing posts with label ช่อมาลีรำลึก. Show all posts

Monday, 12 July 2010

บทวิจารณ์ "ช่อมาลีรำลึก"

บทวิจารณ์นี้มาจากบล๊อกของ ช้าง กระทืบโลง อีกแล้ว ตามอ่านเกี่ยวกับเจ๊ช่อแพ่อตุ๊กติ๊กได้เลย ณ บัดนี้ หากใครอยากอ่านวิจารณ์เรื่องอื่นๆของ ช้าง กระทืบโลงไปตามอ่านต่อได้ที่นี่
http://chor-chang-review.blogspot.com/


คำประกาศอิสรภาพของ “แม่บ้าน”

ชื่อ ช่อมาลี แสงสุริยา
อายุ 42 ปี
สถานภาพ สมรส บุตร 2 คน

เธอก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงไทยมากมาย หรือจะว่าไป ก็คงคล้ายๆ กับผู้หญิงอีกหลายร้อยล้านคนบนโลกกลมๆ ใบนี้

เธอไม่ใช่คนเด่นคนดัง เป็นคนธรรมดาๆ บ้านๆ อะไรแบบนั้น
หรืออาจเรียกว่าเธอเป็น “เจ๊ข้างบ้าน” (“The Jeh” next door) ตัวจริงก็ย่อมได้

จากเด็กผู้หญิง “ทั่วไป” ที่ไม่ได้หน้าตาสะสวย หรือเรียนเก่งอะไร จนเมื่อเธอมีคำตอบให้แก่ครูภูมิศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง แล้วครูกลับไม่เชื่อว่าเธอตอบได้ด้วยตัวเอง ช่อมาลีจึงผันตัวเองไปเป็น “เด็กหลังห้อง” ใส่ชุดนักเรียนคับติ้ว ปากเคี้ยวหมากฝรั่งหยับๆ และก่อวีรกรรมสารพัด เช่นการกระโดดลงจากหลังคา แล้วเธอก็เติบโตขึ้นมา ดำเนินชีวิตต่อไปตามอย่างที่คนปกติ “เขาเป็นกัน” คือมีคนรัก แต่งงาน สร้างบ้าน มีลูก เลี้ยงลูก ดูแลผัว ฯลฯ

เมื่อเธอรู้ตัวอีกที หนุ่มสาวคู่นั้นที่เคยรักกันสวีทหวาน ร่วมกันสร้าง “วิมานสีชมพู” ก็พลันหายตัวไประหว่างทาง ทิ้งไว้แต่คนคนแปลกหน้าสองคน ซึ่งต้องบังเอิญมาใช้ชีวิตในพื้นที่เดียวกันเป็นบางเวลา มีให้กันก็แต่ความเงียบ หรือไม่ก็วาจาเชือดเฉือน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ช่อมาลีใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตแม่บ้านไปกับการพูดคุยกับฝาบ้าน

จนมาวันหนึ่ง ตุ๊กติ๊ก เพื่อนสาวโสดรุ่นน้องที่สนิทสนมกันมานาน ก็ทะลวงทลายชีวิตเปล่าดายของช่อมาลีลง ด้วยการชักชวนเธอให้ “หนี” ไปกรีซด้วยกัน 2 อาทิตย์ โดยตุ๊กติ๊
กจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เพื่อที่จะได้ไป “ในที่แปลกๆ ที่พูดภาษาของแ _่งไม่ได้...” (ตามคำของตุ๊กติ๊ก)

โลกที่ช่อมาลี แม่บ้านวัยกลางคน คุ้นเคย จำเจ และเบื่อหน่าย จึงถึงแก่กาลอวสานลง...

ช่อมาลีรำลึก สร้างตัวละคร ช่อมาลี แสงสุริยา (เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์) ขึ้นมา อย่างที่ทำให้ผู้ชมเชื่อสนิทใจ ว่าเธอเป็น “เจ๊” คนนั้นจริงๆ ทั้งด้วยคาแร็คเตอร์ การแต่งเนื้อแต่งตัว (รวมถึงการพูดไม่ชัดในบางคำ) และการแสดงที่ดูเหมือนไม่ได้แสดง เยาวลักษณ์ทำให้เรารู้สึกคุ้นเคย และคลับคล้ายคลับคลา ว่าเราเองก็รู้จักคนแบบนี้ตัวเป็นๆ อยู่ด้วย

ตรงกันข้ามกับปานรัตน กริชชาญชัย ที่รับบท “ตุ๊กติ๊ก” เธอมีวิธีการแสดงอีกแบบหนึ่ง ที่ดูลอยๆ เหนือจริง และมักพรั่งพรูคำพูดเชือดเฉือนออกมาหน้าตาเฉย นอกจากนั้นแล้ว ปานรัตนยังทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งกำกับการแสดง เขียนบท และรับบทเป็นตัวละครอื่นๆ ในเรื่องด้วย ตั้งแต่คุณครูวิชาภูมิศาสตร์ ภาวิณี เพื่อนแสนสวยแสนเก่งจากวัยเยาว์ ที่ผันตัวไปเป็นกะหรี่ข้ามชาติ เจ๊เกียว เพื่อนบ้านแบรนด์เนมจอมจุ้น และเก๋ ลูกสาววัยรุ่นของช่อมาลี

ในบทละครของ ช่อมาลีรำลึก กล่าวซ้ำๆ เรื่องการเดินทางที่ล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นบทพูดยาวเหยียด ว่าด้วยซิกมันด์ ฟรอยด์ และความสุขสมในชีวิตทางเพศของผู้หญิง ที่ไม่เคยได้รับจากผู้ชาย เปรียบเทียบกับการนั่งรถเมล์สาย 8 (สะพานพุทธ – แฮปปี้แลนด์) จะไปดอยช้างม่อย ซึ่งไม่มีวันไปถึง คำบอกเล่าของช่อมาลี ถึงละครวันคริสต์มาสที่โรงเรียนของลูก เมื่อไก๋ ลูกชายของเธอ ตัดสินใจเปลี่ยนบทพูดของยอแซฟ จนทำให้ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ไปไม่ถึงนครเบธเลเฮม จนมาสรุปลงที่การเดินทางไปกรีซ ที่ทำท่าว่าจะล่มไปเสียก่อน เพราะช่อมาลีไม่กล้าพอที่จะลุกขึ้นหนีไปจากชีวิตเดิมๆ ของเธอ แต่แล้ว การตัดสินใจไปกรีซ ก็ทำให้เธอได้ค้นพบตัวตนอีกครั้งหนึ่ง หลุดไปจากบทบาทแม่หรือเมีย ตลอดจนปมต่างๆ ในชีวิตที่ถูกกดทับเอาไว้ กลายเป็นปัจเจกชนที่เป็นไท เป็นอิสระ อีกครั้งหนึ่ง

น่าสนใจว่า ตลอดทั้งเรื่อง ช่อมาลีจะเป็นฝ่ายพูดคนเดียวเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่บ้าน เธอก็พูดคุยกับข้างฝา แม้เมื่อเธออยู่ร่วมฉากกับตุ๊กติ๊ก ก็ดูเหมือนว่าต่างคนต่างพูด และไม่ใช่บทสนทนา (dialogue) ทว่าเป็นบทพูดคนเดียว (monologue) ของเธอเสียมากกว่า จนทำให้เราอาจตั้งข้อสงสัยได้ว่า จริงๆ แล้ว “ตุ๊กติ๊ก” (ตุกติก ?) มีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงภาพในใจของเจ๊ช่อ เป็นสิ่งที่เธอเองอยากเป็นอยากมีเสมอมา แต่ไม่เคยกล้าพอที่จะเลือก

อย่างที่จะเห็นว่า ขณะที่ช่อมาลีถูกเรียกขานด้วยชื่อจริง พร้อมนามสกุล ตลอดเวลา แต่ตุ๊กติ๊กกลับมีชื่อเรียกอยู่เพียงแค่นั้นตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งกว่านั้น เมื่อเจ๊แกตัดสินใจขึ้นเครื่องบินไปกรีซ ตุ๊กติ๊กที่ไปด้วยกันก็ขอแยกตัวไปกับหนุ่มที่รู้จักกันบนเครื่องบิน ก่อนจะกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อช่อมาลีกำลังลังเลใจว่าเธอจะทำอย่างไรกับชีวิตดี สุดท้าย เมื่อถึงวันกลับ ที่สนามบิน ตุ๊กติ๊กเองกลับเป็นฝ่ายแยกจากเธอไป เมื่อเจ๊ช่อไม่ยอมกลับเมืองไทย แต่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตใหม่ของเธอที่นั่น นั่นก็คือ ตุ๊กติ๊กก็คือตัวตนอีกภาคหนึ่งของช่อมาลี ดังนั้น เมื่อเธอได้ประกาศอิสรภาพให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ตุ๊กติ๊กจึงไม่จำเป็นสำหรับชีวิตของเธออีกต่อไป

ถ้าทั้งหมดนี้ จะทำให้ฟังดูเหมือนว่า ช่อมาลีรำลึก เป็นละครเฟมินิสม์จ๋า พาเครียดหดหู่ ก็ต้องปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่จริงเล้ยยย... ละครเรื่องนี้ “ตลกมาก” (ขอบอก) และ “แร็งงง” อย่างฮา แฟนละครประเภทที่ชอบบทเสียดสี ขบกัด เย้ยหยันอย่างร้ายลึก น่าจะรักละครเรื่องนี้ได้โดยง่าย


ช่อมาลีรำลึก
New Theatre Society
ได้รับแรงบันดาลใจจากบทละคร Shirley Valentine ของ Willy Russell (บทดั้งเดิมได้รับรางวัล Best Comedy ของ Laurence OIivier Awards 1998) และกลอนชื่อ Waiting ของ Faith Wilding
นักแสดง เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์ / ปานรัตน กริชชาญชัย
กำกับการแสดง/เขียนบท ปานรัตน กริชชาญชัย


Cresentmoon Space สถาบันปรีดี พนมยงค์
26 – 30 สิงหาคม, 2 – 6 กันยายน 2552
เผยแพร่ครั้งแรกใน นิตยสาร Vote ปีที่ 5 ฉบับที่ 110 ปักษ์หลัง มกราคม 2553
เขียนโดย ช้าง กระทืบโรง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
http://chor-chang-review.blogspot.com/


Thursday, 3 September 2009

ช่อมาลีรำลึก - ความคิดเห็นจากผู้ชม

เก็บความคิดเห็นจากผู้ชมคนหนึ่งมาแลกเปลี่ยนให้อ่านกัน



ภาพสุดท้ายของละครเวทีเรื่อง ช่อมาลีรำลึก เป็นเหมือนภาพวาดแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ ...ผู้ชมแบบฉันรู้สึกแบบนั้น

ฉันให้คะแนนกับละครเวที ช่อมาลีรำลึก ที่มีปานรัตน กริชชาญชัย เป็นผู้กำกับ เขียนบท และร่วมแสดง ว่าเป็นละครเวทีที่กำลังกินอร่อย รสชาติพอดี รู้สึกว่ากลมกล่อม กินแล้วไม่อิ่มเกินไป หนึ่งชั่วโมงครึ่งกับละครเวทีที่มีบทพูดตลอดทั้งเรื่อง ไม่ได้สร้างความเบื่อหน่ายให้กับเรื่องราวของ ป้าช่อมาลี เลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำตอนจบยังรู้สึกตะหงิดใจว่า เอ๊...ป้าช่อแกไปกรีซจริงหรือเปล่า หรือแกยังบ่นกับกำแพงอยู่แบบเดิม แต่ไปไม่ไปก็ช่างแกเถอะ ทิ้งไว้ให้คาใจแบบนั้นละกัน ที่แน่ๆ คนดูหลายคนออกมาแสดงความเห็นว่า ...ไม่ได้การแล้วต้องออกไปใช้ชีวิต...

ดูละครที่ปานรัตน กริชชาญชัย มาก็หลายเรื่อง ต้องบอกว่าผู้กำกับหญิงคนนี้เป็นส่วนเติมเต็มให้ ช่อมาลีรำลึก มีมิติและสีสัน ปานรัตนรับบทเป็น ตุ๊กติ๊ก และตัวละครอีกหลายตัว ออกมาปล่อยมุกเป็นระยะร่วมกับ เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์ (บ่วย) ซึ่งรับบทเป็นช่อมาลี (ถ้าไม่มีปานรัตน เธอก็รับหน้าที่แสดงเดี่ยวแบบเต็มๆ) หญิงที่ชีวิตถูกลดทอนสีสันลงด้วยสถานภาพเมียและแม่ การปรากฏตัวของปานรัตนจึงเป็นน้ำจิ้มชั้นดี และต้องปรบมือให้กับผู้กำกับคนนี้ว่า การเขียนบทของเธอค่อนข้างแน่นและชัดเจนในการนำเสนอความคิดผ่านบทที่สื่อออกมา

ชอบที่ปานรัตนเขียนบทด้วยการใช้วิธีย้อนแย้ง การวิพากษ์ทฤษฎีต่างๆ ซึ่งแม้ละครจะมีความเป็นเฟมินิสต์ แต่ฉันดูในสถานภาพของผู้ชมที่ไม่อยากเป็นเฟมินิสต์ และดูว่าปานรัตนกำลังเล่าเรื่องของช่อมาลีอย่างไร และใช้การเล่าแบบไหน เธอวิพากษ์ทฤษฎีทั้งหลายของนักคิดตะวันตกหลายคน ที่ให้ความรู้สึกและท้าทายคนดูว่า คุณเลือกจะเชื่อที่เขาทำทฤษฎีสูตรสำเร็จเอาไว้แล้ว หรือคุณเลือกที่จะไม่ฟังนักคิดเหล่านั้น แล้วออกไปหาวิถีทางที่ชอบ(ประมาณไปสู่ที่ชอบๆ ด้วยตัวคุณเอง)ของคุณเอง มันให้อารมณ์เหมือนว่า เลือกที่จะเป็นคนหรือคิดอย่างที่เขาคิดไว้ให้แล้ว หรือเลือกที่จะค้นหาด้วยการออกไปหาคำตอบที่ใช่ด้วยตัวของตัวเอง



ปานรัตนหยิบเอาคำพูดธรรมดาในชีวิตประจำวัน มาให้เราได้คิดตาม จริงอยู่แม้เธอจะวิพากษ์ผู้ชายมากไปหน่อย และโยนคำถามมาให้ผู้หญิงเป็นคนหาคำตอบ หรือจะติดกับดักชีวิตแค่การเป็นเมียและเป็นแม่ ส่วนชีวิตที่ต้องการจริงๆ กลับมอดไปแล้ว และเอาแต่คร่ำครวญกับฝาบ้าน ขณะที่สมาชิกในครอบครัวต่างได้ใช้ชีวิตของพวกเขาอย่างเต็มที่ ผู้ชมที่เป็นผู้ชายมองข้ามเรื่องความเป็นเฟมินิสต์ไปเลยดีกว่า และมองช่อมาลีว่าเป็นชีวิตของคนๆ หนึ่ง เพราะฉันเชื่อว่าผู้ชายก็มีอารมณ์ค้นหาตัวตนเช่นเดียวกัน หรือการใช้เวลาไปกับการรำลึกถึงบางสิ่งบางอย่างในชีวิตทั้งที่เป็นอยู่ เป็นมาแล้ว และกำลังจะเป็น

บางครั้งการปรากฏตัวของปานรัตนในบทบาทต่างๆ ก็ยังทำให้เกิดคำถามตามมาว่า จริงๆ แล้วตุ๊กติ๊กนั้นมีตัวตนจริงๆ หรือไม่(หรือเธอเป็นกุมารทอง) หรือทุกภาพที่เห็นในละครคือภวังค์ความคิดของ ช่อมาลี คนเดียว บทบาทของช่อมาลีตอบโจทย์ให้กับผู้ชมและสะกิดให้ผู้ชมอย่างฉันได้ฉงน

ข้อความจากปานรัตน กริชชาญชัย ในฐานะผู้กำกับ เขียนบท และร่วมแสดง เธอเขียนไว้น่าอ่านว่า
“...ละครเรื่องนี้ผู้ทำได้รับแรงบันดาลใจจากบทละครเรื่อง Shirley Valentine ของ Willy Russell (บทดั้งเดิมได้รับรางวัล Best Comedy ของ Laurence OIivier Awards 1998) และกลอนชื่อ Waiting ของ Faith Wilding โดยการนำเรื่องราวของตัวละครเอกในเรื่อง Shirley Valentine มาผสมผสานกับคำถามที่มันคาอยู่ในใจเมื่อครั้งที่ได้ไปอ่านบทกลอนดังกล่าว แล้วก็ได้แต่นั่งคิดไปเรื่อยๆๆๆ จนวันหนึ่ง (เกือบ ๑๐ ปีล่วงมา) ก็อดทนต่อไปไม่ไหวเลยทำใจกล้าๆ ท่าสวยๆ เขียนบทขึ้นมาใหม่ในชื่อเรื่องว่า “ช่อมาลีรำลึก”

สิ่งที่เรียกว่า “Rebellious Teenage Roots” หรือ “พลังกระตุ้นของวัยแรง(แวรงงงง)” เป็นสิ่งที่มาผลักดันเส้นทางการนำเสนอละครเรื่องนี้โดยผ่านตัวละครชื่อ ช่อมาลี สาวใหญ่วัยหมดแรงแต่อยากลอง feel อีกสักครั้ง หลังจากมีชีวิตที่ไม่ได้ใช้มานาน ความแรงซ่อนเร้นที่จะพาช่อมาลีออกไปจากกรงขังใจ...แต่กว่าเจ๊แกจะยอมแรง มันต้องผ่านประตูกลกี่บานก็หาได้เดาออกไม่ มาร่วมเดินทางไปกับช่อมาลีที่จะพาเราไปเที่ยวไกลๆ...ไปโดดลงทะเลที่มันลึกลงไปชั่วนิรันดร์นั้น...”

ปานรัตน ออกมาเปิดเรื่องด้วยการเล่นคำว่า รอ ว่าชีวิตของคนเรารออะไรกันบ้าง
เราควรจะรอที่จะใช้ชีวิตหรือไม่??? ชีวิตของเราได้ใช้ไปเท่าไหร่???
มีชีวิตแล้วเราควรต้องใช้มัน ฉันได้ใช้ชีวิตไปดูละครเรื่องนี้ ดูแล้วอิ่มกำลังดี อร่อยแล้วไม่ต้องปรุงอะไร ลงตัวสุด (แต่ยังไม่อยากโดดลงทะเลที่มันลึกลงไปชั่วนิรันดร์นั้น นะ เพราะยังอยากใช้ชีวิตกับอีกหลายสิ่งที่ยังมาไม่ถึง)

รอบการแสดง ช่อมาลีรำลึก
26-30 สิงหาคม และ 2-6 กันยายน 2552รอบเวลา 19.30 น.
ที่ Crescent Moon Space
บัตรราคา 300 บาท (นักเรียนนักศึกษา 250 บาท)
สอบถามรายละเอียด 086 787 7715



ขอขอบคุณ nonglucky

และคลิ๊กเข้าไปอ่านได้ที่นี่

http://www.oknation.net/blog/nonglakspace/2009/08/31/entry-1

Friday, 28 August 2009

สูจิบัตร - ช่อมาลีรำลึก


เกี่ยวกับช่อมาลีรำลึก

ละครเรื่องนี้ผู้ทำได้รับแรงบันดาลใจจาก Shirley Valentine ของ Willy Russell (บทดั้งเดิม ได้รับรางวัล "Best Comedy" in the Laurence Olivier Awards 1998) และบทกลอนชื่อ Waiting ของ Faith Wilding โดยการนำเรื่องราวของตัวละครเอกในเรื่อง Shirley Valentine มาผสมผสานกับคำถามที่มันคาอยู่ในใจเมื่อครั้งที่ได้ไปอ่านกลอนชื่อ Waiting ของFaith Wilding เมื่อหลายปีก่อน แล้วก็ได้แต่นั่งคิดไปเรื่อยๆๆๆ จนวันหนึ่ง (เกือบ10ปีล่วงมา) ก็อดรนทนต่อไปไม่ไหวเลยทำใจกล้าๆท่าสวยๆเขียนบทขึ้นมาใหม่ในชื่อเรื่องว่า "ช่อมาลีรำลึก"

สิ่งที่เรียกว่า "Rebellious Teenage Roots" หรือ "พลังกระตุ้นของวัยแรง(แวรงงงง)" เป็นสิ่งที่มาผลักดันเส้นทางการนำเสนอละครเรื่องนี้โดยผ่านตัวละครชื่อ ช่อมาลี สาวใหญ่วัยหมดแรงแต่อยากลอง feel อีกซักครั้ง หลังจากมีชีวิตที่ไม่ได้ใช้มานาน ความแรงซ่อนเร้นที่ว่าจะพาช่อมาลีออกไปจากกรงขังใจ... แต่กว่าเจ๊แกจะยอมแรง มันต้องผ่านประตูกลกี่บานก็หาได้เดาออกไม่ มาร่วมเดินทางไปกับช่อมาลีที่จะพารำปเที่ยวไกลๆ... ไปโดดลงทะเลที่มันลึกลงไปชั่วนิรันดร์กัน...

สั้นๆจากคนทำละคร

เรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นแรกของเราและเพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักในฐานะคนสร้างสรรค์ จุดเริ่มต้นเกิดจากความกระสันอยากทำและอยากเล่น ไม่ได้ต้องการพาดพิงหรือเสียดสีเพศไหนๆ แค่อยากเล่าเรื่องราว ‘ชีวิต’ ของป้าคนหนึ่งเท่านั้นที่แลดูเปรี้ยวดี ดูได้ใช้และใช้อย่างน่าดู แต่ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องพยายามทำความเข้าใจ ไม่ต้องกลับบ้านไปห้อยหัวคิดว่าอีป้านี่มันจะนำเสนออะไรชีวิตป้าคนนี้เค้าไม่ต้องใช้โปรเจคเตอร์ หรือภาพวิดิโอใดๆ (เทคโนโลยีพวกนี้มีเยอะไป ป้าไม่ไหวจะเพลีย!) ขอแค่แก้วไวน์แก้วนึง ชุดเก่งสักตัว และกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ เมื่อคุณพร้อมป้าแกจะพาคุณไปเที่ยว ไปจากที่ที่คุณย่ำเหยียบอยู่ทุกวี่วันขอให้สนุกกับการเดินทาง! เดินทางไปหาชีวิตที่ไม่ต้องวิ่งหนีเจอก็ดี ไม่เจอก็ช่าง- ไว้ไปใหม่!

ปานรัตน กริชชาญชัย


ผู้กำกับ

ปานรัตน กริชชาญชัยปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาศิลปะการแสดงและวรรณกรรมอยู่ที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เป็นสมาชิกกลุ่มละคร New Theatre Society ผ่านงานละครในฐานะนักแสดงและโปรดิวเซอร์มาตั้งแต่ปี 2547ละครเรื่องช่อมาลีรำลึกเป็นผลงานกำกับและเขียนบทชิ้นแรกในชีวิตซึ่งหวังว่าคงไม่ไช่ชิ้นสุดท้าย


นักแสดง

ปานรัตน กริชชาญชัย (ผู้กำกับ/เขียนบท/และร่วมแสดง)
ผลงานที่ผ่านมา :
เสน่ห์หม้ายสลายหนี้, เพราะรักช้ำจึงหม่ำผัว, ตาดูดาวเท้าเหยียบเธอ, ผ่าผิวน้ำ, ฝากหัวใจไว้ที่อุบล, มหาบุรุษอยุธยา, มหายคร 2552, นางนากเดอะมิวเซียม, Run
ขอขอบคุณจากใจ
เรื่อง “ช่อมาลีรำลึก” นี้กำกับเอง เขียนบทเอง เล่นเอง แต่ออกมาเป็นรูปเป็นร่างไม่ได้เองถ้าไม่มีคนร่วมสร้างสรรค์อย่าง พี่บ่วย บี เบสเล็ก เบสใหญ่ น้องพึ่ง และพี่บิ๊ก ที่เป็นที่ปรึกษาหลักของพวกน้องๆ Crescent Moon space สถาบันปรีดี พี่นาด พี่แอ๋ม เพลงเพราะๆจากน้องปอ รูปสวยๆจากธา เบบี้ไมม์ ขวดเหล้าสวยๆจากศรุตและเกรียง ขอบคุณพี่ฟ้า เจนผู้คอยรับฟัง นกและวิลลี่เรืองฉาก โต๊ะสวยๆจากพี่เอ๋ กำลังใจจากน้องหนุ่ม ละครเรื่องเชียร์แหลก นักเรียนทุกคน เพื่อพ้องน้องพี่ที่ให้กำลังใจ คนดูที่สนับสนุน ที่สำคัญที่สุด แม่และยาย ที่เป็นช่อมาลีตัวจริง

เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์
ผลงานที่ผ่านมา :
สามสาวสันดานเสีย, ผีเสื้อสมุทร, ยามพลบ, มอง, ตาดูดาวเท้าเหยียบเธอ, มหาบุรุษอยุธยา ฯลฯ...
ขอบคุณจากใจ
ขอบคุณครอบครัวเล็กๆที่เป็นเจ๊กกันทั้งบ้านที่ทำให้เราเกิดมา ขอบคุณเพื่อนสุดเลิฟ ณัฐ นวลแพง (กลุ่มละครเสาสูง) ที่ชวนมาเล่นละครเวทีเมื่อสิบปีที่แล้ว ทำให้ติดลมอยู่ถึงทุกวันนี้ ขอบคุณก้อนเนื้อเล็กๆบนหัวของเราที่ทำให้เราคิดเป็น รู้สึกได้ ขอบคุณกำลังใจดีๆจาก จุ๊บ, ปั๊ม, บี, เบสเล็ก, เบสใหญ่, พี่บิ๊ก(ดำเกิง) และท้ายสุด ขอบคุณ อิ๋ว ที่กำกับเราด้วยความเข้าใจ และใจเย็นกับเราอย่างสุดๆ
ขอบคุณอิ๋วมากนะ ขอบคุณจากใจขอให้สนุกกับการใช้ชีวิต
อย่าให้มันตกหล่นหายไปหล่ะ

ทีมงาน

กำกับการแสดง ปานรัตน กริชชาญชัย
ควบคุมการผลิต ณัฐกานต์ ภู่เจริญศิลป์
ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ วิชย อาทมาท
ออกแบบแสง ทวิทธิ์ เกษประไพ
ควบคุมแสง พลัฏฐ์ สังขกร, น้องแคท
ออกแบบและควบคุมเสียง วิชย อาทมาท, ศุภฤกษ์ เสถียร

Thursday, 27 August 2009

เจ๊จ๋า...ผู้ชมบอกว่า


เจ๊ช่อกับตุ๊กติ๊กแผลงฤทธิ์ไปแล้วในรอบแรก รอบพรีวิว ขออนุญาตนำเสียงสะท้อนเล็กๆจากผู้ชมบางส่วนมาบอก



ผู้ชม 1

"...สำหรับนักแสดง ก็ต้องบอกว่า เอาอยู่ครับ เล่นได้ดี ถึงแม้จะเป็นรอบพรีวิว ทั้งสองคนเล่นจริงมาก จริงจนทำเอาผมร้องไห้ไปด้วยเลยอ่ะครับ (อายก็อาย นั่งแถวหน้าอีกต่างหาก 55)
เป็นละครอีกเรื่องหนึ่งครับที่น่าประทับใจและไม่ควรพลาดมากๆ..."

ผู้ชม 2
"...เดินออกมาแล้วอยากใช้ชีวิตเลยครับ ชอบประเด็นการนำเสนอออกมาได้หลากรส ชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ..."


ผู้ชม 3
"...เรื่องสนุก ชวนติดตาม และขอบอกว่า ช่อมาลี แสงสุริยา เจ๋ง..."

ผู้ชม 4

"...สาระดีๆแฝงอยู่ในบทสนทนาเยอะเลยนะครับบางคำพูดมันช่างโดน !!!"


ขอบคุณทุกความเห็น แต่ท่านอย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมดจนกว่าจะมาดูด้วยตาตนเอง



Wednesday, 26 August 2009

เจ๊ช่อเล่นจริงแล้ว


เจ๊ช่อเล่นจริงแล้ววันนี้
ขอเชิญชม "ช่อมาลีรำลึก" รอบพรีวิว (ฟรี )
รอบวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2552
รอบเดียว 20 ที่เท่านั้น

สำรองที่นั่งด่วน 0867877155


หมายเหตุ :
การแสดงมีทั้งหมด 10 รอบ วันที่ 26-30 สิงหาคม
และ 2-6 กันยายน 2552 เวลา 19.30 น.


มาดูรูปจากการซ้อมใหญ่กันได้เลย































Saturday, 22 August 2009

เราจะเป็นเพื่อนกันวันสุดท้าย


ถ้ามีคนมาบอกเราว่า "เราจะเป็นเพื่อนกันวันสุดท้าย"
คิดว่า เขากำลังจะบอกอะไรเรา.....
















ช่อมาลี: ...แต่ก็ยังดีที่เค้ายังบอกรักชั้น

ตุ๊กติ๊ก: แก้วนี้ชื่อ...รักจัญไร Love Shit



ช่อมาลีรำลึก
ผลงานเรื่องล่าสุดของ New Theatre Society
พบกับ




เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์









และ ปานรัตน กริชชาญชัย

Friday, 21 August 2009

ช่อมาลีรำลึก


New Theatre Society เสนอ

ช่อมาลีรำลึก

ตุ๊กติ๊ก : ทำไมดึกดื่นป่านนี้แล้วยังไม่กลับ
เจ๊ช่อ : ยิ่งแรงก็ยิ่งไกล.. ยิงไกลก็ยิ่งมันส์.. ยื่งมันก็ยิ่งแรง!

นำแสดงโดย ปานรัตน กริชชาญชัย และ เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์
บทและกำกับโดย ปานรัตน กริชชาญชัย

แรงบันดาลใจจาก Shirley Valentine ของ Willy Russell (บทดั้งเดิม ได้รับรางวัล the Laurence Olivier Awards 1998) และบทกลอนชื่อ Waiting ของ Faith Wilding

26-30 สิงหาคม และ 2-6 กันยายน 2552
รอบเวลา 19.30 น.
ที่ Crescent Moon Space

บัตรราคา 300 บาท (นักเรียนนักศึกษา 250 บาท)
สอบถามรายละเอียด 086 787 7715

Monday, 3 August 2009

เดือนสิงหาคมกับละครสองเรื่องที่ Crescent Moon space



พระจันทร์เสี้ยวการละคร เสนอ


CHEER’S

เชียร์ แหลก

จะเชียร์ทีมไหนก็ช่างมัน
แต่ทีมฉัน
เชียร์มัน
เชียร์แหลก

กำกับการเชียร์ โดย กวินธร แสงสาคร
ร่วมด้วยกองเชียร์สุดมัน ศักรินทร์ ศรีม่วง , เกรียงไกร ฟูเกษม ,สายฟ้า ตันธนา , ฉัตรชัย พุดซ้อน , ธเนศ ม่วงทอง และ ภูมิฐาน ศรีนาค

7 -8 -9 และ 14-15-16 สิงหาคม 2552
ศุกร์ 19.30 น. เสาร์-อาทิตย์
รอบเวลา 14.30น. และ 19.30 น.

ราคาบัตรเข้าชมการเชียร์ 300 บาท ทุกที่นั่ง (นักเรียน นักศึกษา 250 บาท)

Crescent Moon Space
สถาบันปรีดี พนมยงค์
ถนนสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ )

จองบัตรสอบถามได้ที่ 081-612-4769,
084-044-6070







ละครเรื่องใหม่จาก New Theatre Society



ช่อมาลีรำลึก


ตุ๊กติ๊ก : ทำไมดึกดื่นป่านนี้แล้วยังไม่กลับ
เจ๊ช่อ : ยิ่งแรงก็ยิ่งไกล.. ยิงไกลก็ยิ่งมันส์.. ยื่งมันก็ยิ่งแรง!


นำแสดงโดย ปานรัตน กริชชาญชัย
และ เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์
บทและกำกับโดย ปานรัตน กริชชาญชัย
แรงบันดาลใจจาก Shirley Valentine ของ Willy Russell (บทดั้งเดิม ได้รับรางวัล the Laurence Olivier Awards 1998) และบทกลอนชื่อ Waiting ของ Faith Wilding

26-30 สิงหาคม และ 2-6 กันยายน 2552
รอบเวลา 19.30 น.
ที่ Crescent Moon Space

บัตรราคา 300 บาท (นักเรียนนักศึกษา 250 บาท)

สอบถามรายละเอียด 086 787 7715