welcome to crescent moon space

welcome to crescent moon space
small but beautiful small alternative space for theatre lovers
Showing posts with label Hamlet. Show all posts
Showing posts with label Hamlet. Show all posts

Wednesday, 4 March 2009

H-A-M-L-E-T - รอบแรก

Hamlet a solo performnace แสดงรอบแรกแล้วคืนนี้
ภาพถ่ายโดย วิชย อาทมาต














"to be or not to be that is the question"
อยู่หรือจะตายนั่นเป็นปัญหาจริงเหรอ
















เอาเถอะ เดี๋ยวเราจะได้ดูละครกัน














ประสาทหลอนเหรอ ... ผมไม่ได้บ้า













ใครๆเขาก็เห็นผมเป็นตัวตลกไปแล้วหรือนี่







Saturday, 28 February 2009

Hamlet - ฝ่ายบัตรขอบอก

ฝ่ายบัตรของ New Theatre Society ขอบอกกล่าวกับท่านผู้ชมว่า

'Hamlet: The Techno Drama'

เชิญจองบัตรได้แล้วนะคะ!!
2 วันแรก ราคาบัตรจะถูกสุด @ 250 บาท

หลังจากนี้ราคาจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ รีบๆจองนะคะ อิอิ

รอบละ 30 ที่นั่งเท่านั้น

มีเพียง 10 รอบเท่านั้น ค่ะ

Friday, 27 February 2009

Director's Note on HAMLET




“จะอยู่หรือตายนั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป”



“แฮมเล็ต” เป็นหนึ่งในบรรดาบทละครสุดโปรดของผม เนื่องจากมันเป็นละครที่ผมอยากเรียกว่า “มีปัญหามาก” ในหลาย ๆ ด้านจนน่าสนใจ ครูของผมคนหนึ่งที่อังกฤษเคยพูดให้ฟังว่าเหตุที่เรื่องนี้มันมีความยาวมากและบางทีอาจจะซับซ้อนมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ของเชคสเปียร์อาจเป็นเพราะว่ามีการแต่งเสริมเข้าไปโดยฝีมือนักแสดงในสมัยต่อ ๆ มา ซึ่งนั่นก็อาจเป็นไปได้อีกว่าเหตุใดละครเรื่องนี้ถึงได้มีมิติที่หลากหลายมากตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับอภิปรัชญา อีกทั้งยังเอื้อต่อการตีความไปต่าง ๆ นานาตามแต่เหตุผลและความรู้สึกของผู้กำกับการแสดง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ต้องขอแสดงความนับถือต่อผู้ที่มีส่วนร่วมสร้างเสน่ห์ให้แก่บทละครเรื่องนี้-ที่มีความเป็นปริศนามากพออยู่แล้ว...ให้มีความปริศนามากขึ้นไปอีก...ถือว่าเป็นโชคดีแท้ ๆ ของชาวโลกชนิดหนึ่ง



อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผมสนใจในการทำแฮมเล็ตครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่ความเป็นอภิปรัชญาใด ๆ ตามที่นักวิชาการหรือนักวิจารณ์ได้สร้างฐานข้อมูลและชุดความคิดให้เราได้ร่ำเรียนหรือรับรู้กันมา ผมไม่ได้เปลี่ยนบทของเชคสเปียร์ด้วยวิธีการที่ผมเคยใช้ในการดัดแปลงบทต่างประเทศเหมือนเรื่องก่อน ๆ ผมทำแค่การตัดต่อบทแล้วค้นหารูปแบบการนำเสนอตามสัญชาติญาณในระหว่างกระบวนการซ้อมเท่านั้น อีกทั้งผมไม่คิดที่จะเชื่อมโยงแฮมเล็ตกับบริบททางสังคมใด ๆ อย่างที่เคยเป็นที่นิยมทำกันด้วย สิ่งที่ผมสนใจในปัจจุบันอยู่ที่ความเป็นตัวตนของแฮมเล็ต ซึ่งไม่ว่าใคร (หมายถึงทั้งคนในเรื่องและนอกเรื่อง) จะว่าเขาเป็นอย่างไร ผมได้มุ่งพิจารณาเฉพาะในสิ่งที่เขาคิด พูด และกระทำออกมาเท่านั้น การดึงบทเฉพาะที่แฮมเล็ตพูดออกมาเรียงร้อยต่อกันโดยเฉพาะช่วงที่เรียกว่า “บทรำพึงรำพัน” (soliloquy) ผมไม่เพียงแต่พบว่ามันสามารถเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบได้ (แถมยังสามารถทำเป็นการแสดงเดี่ยวได้ด้วย) แต่ทำให้ผมรู้สึกมากยิ่งขึ้นด้วยว่าเขาไม่ได้ผิดแผกอะไรไปกว่ามนุษย์ธรรมดาปกติทุกคนซึ่งสามารถเป็นไปได้ทุกอย่าง


ผมรู้สึกว่าวลีสุดฮิตอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลที่ว่า “To be or not to be that is the question” นั้น อาจจะไม่แตกต่างอะไรกับ “ดาวินชีโค้ด” ที่สามารถเอามาไขปริศนาอันซับซ้อนในตัวของเขาได้ ผมจึงลองใช้วลีนี้เป็นแกนในการสำรวจการกระทำทุกอย่างของแฮมเล็ต ไม่ว่าจะเป็นการใช้จับหรือถอดประโยคต่าง ๆ ในเรื่องที่แฮมเล็ตพูดไปโดยตลอด ไปจนถึงการลองเปลี่ยนคำในวลีนี้ดู แต่ยังคงรักษาแบบแผนของกวีนิพนธ์ประหลาด feminine ending ที่มี 11 พยางค์ไว้ (ปกติจะมี 10 พยางค์) เผื่อว่าอาจจะเจออะไรบางอย่างที่สามารถเชื่อมโยงกับความคิดสะเปะสะปะที่ทดไว้ในใจได้ จนในที่สุดรูปนักโทษคนหนึ่งที่ถือป้ายเขียนข้อกล่าวหาก็ได้ดลใจให้ผมลองเปลี่ยนคำสุดท้ายจากคำว่า “question” เป็น “sentence” แล้วผมก็ถึงบางอ้อทันทีสำหรับทิศทางการกำกับการแสดงในครั้งนี้ มันคงจะต้องเป็นไปได้ว่า “คนเราจะอยู่หรือตาย จะเป็นโน่นนี่นั่นหรือไม่เป็นนั่นโน่นนี่ แท้จริงมันถูกตัดสินเรียบร้อยแล้วโดยคนอื่น ๆ หาใช่ปัญหาหรือคำถามอีกต่อไป”


แน่นอน ผมตั้งสมมุติฐานว่าสิ่งนี้เองคงเป็นชะตากรรมที่จำเลยอย่างแฮมเล็ตจำต้องเผชิญตลอดเรื่องราวที่เกิดขึ้น และด้วยความรู้สึกต่อเรื่องในวิถีทางนี้ ทำให้ผมมองเห็นมิติในวิธีการใคร่ครวญคิดหาหนทางของแฮมเล็ตที่ดูเหมือนจะมีจังหวะตอกย้ำ และท่วงทำนองหลอกหลอนราวกับดนตรีแนว Trance และ Techno ทุกประโยคที่เขาพูดและทุกการกระทำที่เขาแสดงออกมา ทำให้ผมเชื่อชัดได้ว่านั่นเป็นคำตอบที่แจ่มแจ้งพอว่าเขากำลัง “หลีกหนี” (escape) จากการพิพากษา ทั้งจากตัวของเขาเองและจากคนอื่นเพื่อธำรงความมีอยู่ของตัวตนในสภาวะที่เขาเชื่อว่าเลวร้าย ครั้งนี้ผมจึงไม่รู้สึกว่าเขาเป็นนักสู้ผู้มุ่งมั่น หรือผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ที่จะแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขาเป็น “The Fool” ผู้สับสน ร้อนรนและขลาดเขลา (รวมทั้งเขาอาจจะรู้ชะตากรรมตั้งแต่เริ่มต้นปัญหาแล้วว่าท้ายที่สุดเขาจะต้องตาย)


และการที่เขาพยายามใคร่ครวญเหตุผลของการดำรงอยู่ของตัวตนนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าคนอื่น ๆ มองเขาว่าเป็นคนวิกลจริต หรือแสร้งทำเป็นวิกลจริตเพื่อหวังผลอะไรบางอย่างก็ได้ ซึ่งนั่นก็อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่สามารถฟันธงหรือคอนเฟิร์มว่าฝ่ายไหนทำผิดแต่อย่างใด เพียงแต่คนเราอาจจะเกิดและเติบโตมามาพร้อมกับชุดความคิดที่แตกต่างกันเท่านั้น ทุกคนเป็นโจทก์และจำเลยของตัวเอง รวมทั้งเป็นโจทก์และจำเลยของซึ่งกันและกัน อยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้ที่รอด ใครเป็นคนตัดสิน และใครจะเป็นผู้ที่โดนดี...จะอยู่หรือจะไป...ก็เท่านั้นเอง


ขอให้ทุกคนโชคดีและมีความสุขที่สุดตามอัตตภาพ ส่วนตัวผมเองก็ยังคงอยากที่จะทำแฮมเล็ตในแบบที่มีตัวละครครบเซ็ทในโอกาสต่อไป อิอิ


ดำเกิง ฐิตะปิยะศักดิ์
กรุงเทพฯ 25 กุมภาพันธ์ 2552

Thursday, 26 February 2009

H-A-M-L-E-T Preview


H-A-M-L-E-T
THEATRE PREVIEW in Daily Xpress
By Pawit Mahasarinand
SPECIAL TO DAILY XPRESS
Published on February 26, 2009


THEATRE PREVIEWDISCO SHAKESPEARE!


The one-man show 'Hamlet: The Techno Drama' should be a stunner
Having proved itself with adaptations of "Waiting for Godot" and "Arms and the Man", the New Theatre Society, led by veteran director Damkerng Thitapiyasak, is about to tackle one of the most complex plays of all time.
"To be or not to be," the promotions say, "that is the … sentence" - and you know right away that this is going to be a different species of "Hamlet".
For one thing, it's a solo performance. For another, the full title is "Hamlet: The Techno Drama".
"It's set in the modern day," Damkerng explains.
"It's like entering a discotheque where trance and techno music are filling the air, and my script focuses on Hamlet's confusion. In my opinion, what the other characters view in his actions as madness is simply him escaping from his misery."

And the miserable lunatic alone onstage?
"I've seen different versions of the play, by visionary directors like Robert LePage, Robert Wilson and Peter Brook," says Damkerng, "and I found that it can be told entirely through Hamlet's point of view.

"I experimented by using only his soliloquies and monologues and putting them all together - cutting the play down to the core - and found that the whole story still makes sense.
One actor
"All the major characters are still there, but they're being portrayed by just one actor."

Damkerng chose one of Thailand's most charismatic stage performers, Nophand Boonyai, whom he directed in last year's "Breaking the Surface".
"He has a rebel's character and frequently comes up with new ideas. I suggested some line changes to make them more modern, but he insisted on memorising the poetic ones."

Nophand's performance will be augmented with projected images arranged by Banphot Wutthipreecha - tarot cards to indicate the different characters and video to help present the royal ghost.
HAMLET IN DA HOUSE


"Hamlet: The Techno Drama" is at the Crescent Moon Space
at the Pridi Banomyong Institute.

Showtime is 7.30 nightly from next Wednesday to Sunday
(March 4 to 15).
Tickets are Bt250 to Bt350.

Call (086) 787 7155


H-A-M-L-E-T


“To be or not to be that is the sentence: จะอยู่หรือตายนั่นเป็นคำตัดสิน”
New Theatre Society ได้ร่วมกับ Crescent Moon Space เปิดศักราชใหม่ประจำปี 2552 ด้วยการแสดงเดี่ยวของ
“อ้น - นพพันธ์ บุญใหญ่”
ในละครเวทีแนวเทคโนเรื่อง

“แฮมเล็ต”
จากบทละครอมตะของ วิลเลียม เชคสเปียร์
ดัดแปลงบทและกำกับการแสดงโดยดำเกิง ฐิตะปิยะศักดิ์


เรื่องราวของ ละครกล่าวถึง “แฮมเล็ต” ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นแต่สับสน เขาปักใจเชื่อว่าอาของเขาได้สมคบกับแม่ของตนในการสังหารพ่อของเขาเพื่อครอบ ครองทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยความปรารถนาที่จะรู้ความจริงให้ได้ เขาจึงจัดการแสดงละครเลียนแบบเหตุการณ์การฆาตกรรมขึ้นมาเพื่อจับพิรุธผู้ ต้องสงสัย ซึ่งในระหว่างกระบวนการนี้เองได้โยงใยผู้คนหลายคนหลายฝ่ายเข้ามาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น “โอฟีเลีย” คนรักของเขา รวมไปถึง “โฮราชิโอ” เพื่อนสนิท, “โพโลเนียส” ชายชราเจ้าเล่ห์พ่อของโอฟีเลีย” รวมทั้ง “โรเซนครานซ์” และ “กิลเดนสเทิร์น” สหายเก่าซึ่งถูกส่งตัวมาให้จับตาดูความประพฤติของเขา
แทบทุกคนได้ลงความเห็นว่าแฮมเล็ตมีอาการวิกลจริต และในที่สุดเขาก็ได้ถูกส่งตัวไปยังอังกฤษเพื่อแผนการสังหาร แต่โชคชะตานำพาให้เขารอดกลับมาจนได้เพื่อทำการแก้แค้น และได้มาเผชิญหน้ากับ “เลเอทิศ” ผู้ผูกจิตพยาบาทจากการที่แฮมเล็ตสังหารโพโลเนียสผู้เป็นบิดา รวมทั้งยังเป็นสาเหตุของการตายของโอฟีเลียน้องสาวของเขาอีกด้วย

สำหรับรูปแบบการนำเสนอแฮมเล็ตในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงเดี่ยวที่นักแสดง “อ้น - นพพันธ์” จะต้องรับหน้าที่เป็นตัวละครหลายหลากบทบาทในเวลาเดียวกันแล้ว ยังเป็นการนำเอาเทคนิคด้านภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ มาสร้างมิติใหม่ให้แก่การเล่าเรื่องราวอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ชมรู้สึกเสมือนหนึ่งเป็นผู้ติดตามความรู้สึกภายในจิตใจของแฮม เล็ต รวมทั้งตัวละครต่าง ๆ ที่ร้อนรนอยู่ภายใต้บรรยากาศอันรุนแรงและน่าสะพรึงด้วยดนตรีแนว Trance และ Techno อันเร้าใจไปในเวลาเดียวกัน

“แฮมเล็ต”
จัดแสดงเพียง 10 รอบเท่านั้น
ณ ละครโรงเล็ก Crescent Moon Space
สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซอยทองหล่อ

ระหว่างวันที่ 4-15 มีนาคม 2552
เวลา 19.30 น. / 10 รอบ (เว้นวันจันทร์,อังคาร)
การแสดงมีความยาว 100 นาที รวมพักครึ่ง
บัตรราคา 250-350 บาท

สำรองที่นั่งได้แล้ววันนี้ที่โทร 086 787 7155
ที่นั่งมีจำนวนจำกัดเพียง 30 ที่ต่อรอบเท่านั้น